top of page
  • รูปภาพนักเขียนพญ. ฐิติพรรณ ชยวงศ์รุ่งเรือง (หมอชะเอม)

ฝากครรภ์ที่ไหนดี โรงพยาบาล หรือคลินิก แบบไหนดีที่สุด


ฝากครรภ์ที่ไหนดี


ฝากครรภ์ (Prenatal care) เป็นหนึ่งในการดูแลสุขภาพขณะตั้งครรภ์ที่สำคัญมาก ทั้งต่อตัวคุณแม่และเด็ก โดยสูตินรีแพทย์จะนัดหมายคุณแม่ไปตรวจสุขภาพเป็นระยะ ๆ เพื่อติดตามพัฒนาการของทารกในครรภ์ ตั้งแต่ตั้งครรภ์ไปจนถึงคลอดบุตร รวมถึงให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพร่างกาย และเฝ้าระวังความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ได้


สำหรับคุณแม่ที่วางแผนจะมีบุตร หรือตั้งครรภ์แล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปฝากครรภ์ที่ไหนดี ไม่แน่ใจว่าควรเลือกฝากท้องกับโรงพยาบาล หรือคลินิกฝากครรภ์ดี ในบทความนี้ แฮปปี้เบิร์ธคลินิก คลินิกสูตินรีเวช จะพาไปหาคำตอบเอง ถ้าพร้อมแล้ว ตามไปดูกันเลย!


ฝากท้องครั้งแรกต้องไปที่ไหน

หลังจากที่คุณแม่ตรวจตั้งครรภ์ แล้วพบว่าตนเองท้อง สิ่งแรกที่ควรทำก็คือ การไปฝากท้อง หรือฝากครรภ์โดยเร็วที่สุด ซึ่งไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ แค่เตรียมบัตรประชาชน หรือหลักฐานยืนยันตัวตนของตัวเองให้เรียบร้อย แล้วไปพบคุณหมอที่คลินิกฝากครรภ์ หรือโรงพยาบาลใกล้บ้านที่เดินทางสะดวกได้เลย 


ฝากครรภ์ครั้งแรกทำอะไรบ้าง

การฝากครรภ์ครั้งแรกจะแบ่งเป็น 4 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่


ฝากครรภ์ครั้งแรกทำอะไรบ้าง


1. ตรวจสุขภาพโดยสูตินรีแพทย์

คุณหมอจะซักประวัติสุขภาพและโรคประจำตัวของคุณแม่ รวมถึงตรวจสุขภาพร่างกายทั่วไป และตรวจอัลตราซาวด์ดูตำแหน่งการตั้งครรภ์ ดูจำนวนทารกในครรภ์ กำหนดอายุครรภ์ และวันครบกำหนดการคลอด ซึ่งจะช่วยให้คุณแม่สามารถวางแผนการดูแลตัวเองอย่างได้เหมาะสม


2. ตรวจทางห้องปฏิบัติการ

รายการตรวจทางห้องปฏิบัติการจะแตกต่างกันไปในแต่ละสถานพยาบาล แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีรายการตรวจดังนี้

  • ตรวจตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)​ 

  • ตรวจปัสสาวะ (UA)​ 

  • ตรวจหาการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg) 

  • ตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) 

  • ตรวจหาการติดเชื้อซิฟิลิส (Syphilis Ab) 

  • ตรวจหากรุ๊ปเลือด (ABO group) ​

  • ตรวจหากรุ๊ปเลือด (Blood group Rh)

  • ตรวจคัดกรองธาลัสซีเมีย (Hemoglobin Typing)


3. จ่ายยาบำรุงครรภ์ และวัคซีนสำหรับหญิงตั้งครรภ์

หลังจากที่ตรวจสุขภาพร่างกายและตรวจทางห้องปฏิบัติการเสร็จแล้ว คุณหมอจะให้คุณแม่ฉีดวัคซีนสำหรับหญิงครั้งครรภ์ โดยจะมีอยู่ 2 ตัวหลัก ๆ ได้แก่ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก (Tdap) 


นอกจากนี้คุณหมอจะจ่ายยาบำรุงครรภ์ หรือวิตามินบำรุงครรภ์ให้กับคุณแม่ด้วย โดยส่วนใหญ่จะเป็นวิตามิน หรือแร่ธาตุที่คุณแม่จำเป็นต้องได้รับเพิ่มเติมระหว่างตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็น กรดโฟลิก (Folic acid) หรือโฟเลต (Folate) แคลเซียม (Calcium) ธาตุเหล็ก หรือดีเอชเอ (DHA) เป็นต้น


4. ให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพร่างกายสำหรับหญิงตั้งครรภ์

ขั้นตอนสุดท้ายของการฝากครรภ์ครั้งแรก คุณหมอจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลสุขภาพร่างกาย สิ่งที่ควรระวัง และควรหลีกเลี่ยงระหว่างการตั้งครรภ์ เพื่อให้คุณแม่สามารถดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม รวมถึงนัดหมายฝากครรภ์ในครั้งถัดไปด้วย


ฝากครรภ์ที่ไหนดี 

เชื่อว่า คุณแม่ตั้งครรภ์หลายท่านคงมีข้อสงสัยว่า ควรเลือกฝากครรภ์ที่ไหนดี ระหว่างโรงพยาบาลกับคลินิกฝากครรภ์ แบบไหนเหมาะสมกับเราที่สุด แฮปปี้เบิร์ธคลินิก คลินิกสูตินรีเวช จะพาไปเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของการฝากครรภ์กับทั้งสองสถานพยาบาลเอง


ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล

การฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลจะมีข้อดีตรงที่คุณแม่สามารถฝากครรภ์และคลอดบุตรได้ที่เดียวกันเลย ทำให้ไม่ต้องทำเรื่องส่งตัวให้วุ่นวาย แต่จะมีข้อเสียตรงที่นัดหมาย หรือเลื่อนนัดได้ไม่สะดวกเท่าคลินิกฝากครรภ์ และเมื่อเข้าไปใช้บริการก็จะต้องรอคิวนานกว่า


ฝากครรภ์ที่คลินิก 

การฝากครรภ์ที่คลินิกนั้น คุณหมอสามารถให้การดูแลสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ได้ไม่ต่างกับโรงพยาบาลเลย โดยเฉพาะแนวทางการดูแลรักษาของแพทย์ ไม่ว่าจะเป็น การซักประวัติสุขภาพ การติดตามความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายคุณแม่และทารก การอัลตราซาวด์ทารกทั้งแบบ 2 มิติ หรือ 4 มิติ ตลอดจนการหาแนวทางป้องกันความเสี่ยง และภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์ รวมไปถึงการตรวจ NIPT เพื่อคัดกรองความเสี่ยงทางโครโมโซมของทารกในครรภ์ ก็สามารถทำได้เช่นกัน


ส่วนข้อดีของการฝากครรภ์ที่คลินิกที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ ความสะดวกสบาย คุณแม่สามารถนัดหมาย หรือเลื่อนนัดได้อย่างสะดวก เมื่อเข้ามาใช้บริการแล้วก็จะได้รับบริการที่รวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลานั่งรอนาน อีกทั้งยังได้รับการดูแลจากสูตินรีแพทย์อย่างใกล้ชิดตลอดกระบวนการตั้งครรภ์ด้วย

ถึงแม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่การฝากครรภ์ที่คลินิกก็มีข้อเสียที่คุณแม่ต้องรู้เช่นกัน นั่นก็คือ คุณแม่จะต้องไปคลอดที่โรงพยาบาล อาจจะเป็นโรงพยาบาลรัฐ หรือโรงพยาบาลเอกชนก็ได้ตามที่ครอบครัวสะดวก ทำให้คุณแม่ต้องไปติดต่อโรงพยาบาลให้เรียบร้อย แต่ไม่จำเป็นต้องกังวลไป เพราะคลินิกฝากครรภ์ส่วนใหญ่จะมีเจ้าหน้าที่ช่วยทำเรื่องติดต่อโรงพยาบาลให้กับคุณแม่เอง พร้อมปรึกษาคุณหมอที่คลินิกทุกคนเรื่องคลอด รพ ได้เลย


ฝากครรภ์ สามีต้องไปด้วยไหม

สามีควรไปฝากครรภ์กับภรรยาในครั้งที่ 2 เพราะจะต้องตรวจเลือดเพื่อคัดกรองความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น ตรวจหาการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg) ตรวจหาเชื้อเอดส์ (HIV) ตรวจหาการติดเชื้อซิฟิลิส (anti-TP)  หรือตรวจพาหะธาลัสซีเมีย (Hemoglobin typing) ส่วนครั้งอื่น ๆ จะไป หรือไม่ไปก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละครอบครัวเลย


ฝากครรภ์อัลตราซาวด์ทุกครั้งไหม


ฝากครรภ์อัลตราซาวด์ทุกครั้งไหม


ไม่จำเป็นต้องอัลตราซาวด์ทุกครั้งที่ไปฝากครรภ์ แต่ควรทำให้ครบทั้ง 3 ไตรมาส ดังนี้

  • ไตรมาสที่ 1 (ก่อน 14 สัปดาห์) : อัลตราซาวด์เพื่อยืนยันอายุครรภ์ 

  • ไตรมาสที่ 2 (18 – 22 สัปดาห์) : อัลตราซาวด์เพื่อคัดกรองความผิดปกติของอวัยวะ

  • ไตรมาสที่ 3 (28 – 32 สัปดาห์ขึ้นไป) : อัลตราซาวด์เพื่อติดตามการเจริญเติบโต และสุขภาวะของทารก

อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่ต้องการอัลตราซาวด์ทุกครั้งที่ไปฝากครรภ์ ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะอัลตราซาวด์เป็นการตรวจโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูง ไม่ได้ใช้รังสีแบบการทำเอกซเรย์ จึงไม่ส่งผลเสียต่อแม่และเด็ก ไม่ทำให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด

หมายเหตุ : การฝากครรภ์ที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิก จะมีการตรวจอัลตราซาวด์ทุกครั้ง ซึ่งจะรวมอยู่ในค่าฝากครรภ์แต่ละครั้งแล้ว ไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม


ฝากครรภ์กับแฮปปี้เบิร์ธคลินิกดีอย่างไร


ฝากครรภ์กับแฮปปี้เบิร์ธคลินิกดีอย่างไร

การฝากครรภ์ที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิกดูแลโดยคุณหมอสูตินรีแพทย์ผู้หญิงที่เข้าใจคุณแม่ทุกวัย เรามีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานเทียบเท่าโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่คลินิกของเราเป็นผู้หญิงทุกคน เราพร้อมช่วยดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกท่านให้มีความสุขตลอดกระบวนการตั้งครรภ์ ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์ และตรวจสุขภาพหลังคลอด ทั้งร่างกายและจิตใจ รับรองว่าไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน!


เอกสารฝากครรภ์มีอะไรบ้าง

เอกสารที่ใช้ฝากครรภ์ที่คลินิกครั้งแรก จะใช้แค่หลักฐานยืนยันตัวตน โดยคนไทยจะใช้บัตรประชาชน ใบขับขี่ หรือเอกสารยืนยันที่ออกโดยรัฐและมีภาพถ่ายชัดเจนก็ได้ ส่วนชาวต่างชาติ จะต้องใช้หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ใบอนุญาตการทำงาน หรือบัตรประจำตัวคนที่ไม่มีสัญชาติไทย (บัตรสีชมพู) แทน


ฝากครรภ์ที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิก ราคากี่บาท

ฝากครั้งแรกที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิก ราคา 3,500 บาท ครอบคลุมค่าใช้จ่ายดังนี้

  • พบคุณหมอสูตินรีแพทย์ ตรวจร่างกาย 

  • ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ 

  • ตรวจอัลตราซาวด์ ยืนยันการตั้งครรภ์ ดูทารก ดูตำแหน่งการตั้งครรภ์ ดูอายุครรภ์ ดูกำหนดคลอด

  • รับยาบำรุง

  • รับสมุดฝากครรภ์

ส่วนการฝากครรภ์ครั้งถัด ๆ ไป มีราคา 2,000 บาทต่อครั้ง ครอบคลุมค่าใช้จ่ายดังนี้

  • พบคุณหมอสูตินรีแพทย์ ตรวจร่างกาย

  • ตรวจอัลตราซาวด์ ทุกครั้งที่มาฝาก ดูความสมบูรณ์ของทารก ดูพัฒนาการของทารก

  • ฉีดวัคซีน ตรวจเลือด ตรวจน้ำตาล ตรวจปัสสาวะ ฯลฯ (แตกต่างกันในแต่ละครั้ง)

ราคาฝากครรภ์และค่าบริการที่คลินิกรวมยาบำรุงและค่าบริการทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ค่าบริการอาจแตกต่างกันไปในแต่ละเคสขึ้นอยู่กับรายการตรวจซึ่งเป็นไปตามดุลยพินิจของคุณหมอ


แพคเกจฝากครรภ์

(อ้างอิง : ค่าบริการ ณ เดือนสิงหาคม 2567)


ฝากครรภ์ที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิก เบิกประกันสังคมได้ไหม

ฝากครรภ์ที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิกสามารถเบิกประกันสังคมได้ โดยสามารถเบิกค่าฝากครรภ์ได้สูงสุด 1,500 บาท แบ่งตามช่วงอายุครรภ์ตลอดการตั้งครรภ์ ทั้งหมด 5 ครั้ง ได้แก่

  • ครั้งที่ 1 : อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ เบิกได้สูงสุด 500 บาท

  • ครั้งที่ 2 : อายุครรภ์ 13 - น้อยกว่า 20 สัปดาห์ เบิกได้สูงสุด 300 บาท

  • ครั้งที่ 3 : อายุครรภ์ 20 - น้อยกว่า 26 สัปดาห์ เบิกได้สูงสุด 300 บาท

  • ครั้งที่ 4 : อายุครรภ์ 26 - น้อยกว่า 32 สัปดาห์ เบิกได้สูงสุด 200 บาท

  • ครั้งที่ 5 : อายุครรภ์ 32 - 40 สัปดาห์ เบิกได้สูงสุด 200 บาท

โดยสามารถเลือกเบิกแยกรายครั้ง หรือเบิกพร้อมกันทีเดียวได้เลย 

ส่วนเอกสารที่ใช้ในการเบิกค่าฝากครรภ์ประกันสังคมจะประกอบไปด้วย ใบเสร็จค่าฝากครรภ์ของสถานพยาบาลที่ไปใช้บริการ ใบรับรองแพทย์ หรือสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก สำเนาสมุดบัญชีธนาคารหน้าแรก (กรณีรับเงินเข้าบัญชีธนาคาร)  


ในกรณีที่คุณพ่อเป็นคนใช้สิทธิ์แทน จะต้องใช้ทะเบียนสมรส หรือหนังสือรับรองของผู้ประกันตนกรณีที่ไม่มีทะเบียนสมรสด้วย


นอกจากค่าฝากครรภ์แล้ว คุณแม่ยังสามารถเบิกค่าคลอดบุตรแบบเหมาจ่ายได้ด้วย วงเงินสูงสุด 15,000 บาทต่อครั้ง และเลือกคลอดได้ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชนเลย แต่จะต้องสำรองจ่ายก่อน แล้วค่อยมาเบิกประกันสังคมตามหลัง


ฝากครรภ์ที่ไหนดี

จบกันไปแล้วกับการแนะนำข้อดี-ข้อเสียของการฝากครรภ์ที่คลินิกและโรงพยาบาล หวังว่าจะช่วยคลายข้อสงสัยฝากครรภ์ที่ไหนดีให้กับคุณแม่ทุกคน และสามารถเลือกที่ฝากครรภ์ที่เหมาะสมกับตัวเองได้

สำหรับคุณแม่ท่านใดที่สนใจฝากครรภ์ที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิกก็สามารถติดต่อนัดหมายเพื่อเข้ามาใช้บริการได้ที่ เบอร์โทรศัพท์  081-442-9355 (ตามเวลาทำการคลินิก) และเฟสบุ๊กเพจ happybirth กับหมอชะเอม ได้เลย จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำต่าง ๆ อยู่ คุณหมอของเราพร้อมให้การดูแลอย่างดีที่สุด เพื่อให้การตั้งครรภ์ของคุณแม่เป็นไปอย่างสบายใจและปลอดภัย

Comments


bottom of page