สาว ๆ ที่อยู่ในวัยรักสนุก วัยอยากรู้อยากลอง ไม่ใช่เรื่องผิดที่เราจะมีเพศสัมพันธ์ แต่จะต้องป้องกันให้ดีด้วยการใช้ถุงยางอนามัย ฉีดวัคซีน HPV เพื่อป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกและหูดหงอนไก่ และตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำ เพื่อที่จะได้เช็กอัพสุขภาพร่างกาย และดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมค่ะ
สำหรับสาว ๆ ที่รู้สึกเขินอาย ไม่กล้าไปตรวจที่โรงพยาบาล แฮปปี้เบิร์ธคลินิกขอแนะนำแพ็กเกจตรวจ STD ผู้หญิง ตรวจโดยคุณหมอผู้หญิงที่เข้าใจในเรื่องผู้หญิง คลินิกของเรามีความเป็นส่วนตัว คนไม่พลุกพล่าน สามารถนัดหมายเข้ามาพบคุณหมอที่คลินิกของเราอย่างสบายใจได้เลยค่ะ
ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) คืออะไร
การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Diseases: STDs) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า “ตรวจ STD” คือ การตรวจคัดกรองโรคต่าง ๆ ที่สามารถติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ได้ เช่น โรคหนองใน เริม หรือซิฟิลิส ซึ่งอาจติดต่อผ่านทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือทางปากก็ได้
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้น ไม่ได้ติดต่อแค่เฉพาะผ่านการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่ยังสามารถติดต่อผ่านทางเลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การสัมผัสถูกสารคัดหลั่ง และการแพร่จากแม่สู่ลูกได้อีกด้วย
สามารถตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วยวิธีใดบ้าง?
การตรวจเลือด หรือตรวจปัสสาวะ เป็นวิธีที่นิยมตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากที่สุด เพราะตรวจได้ง่าย และสามารถตรวจได้หลายโรค ไม่ว่าจะเป็น เชื้อเอชไอวี โรคหนองใน เริม ซิฟิลิส หรือเชื้อไวรัสตับอักเสบ
นอกจากนี้ สาว ๆ ยังสามารถตรวจภายใน (Pap smears) เพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่เกิดจากเชื้อไวรัสเอชพีวีได้อีกด้วย หรือจะตรวจหาเชื้อจากสารคัดหลั่งต่าง ๆ จากอวัยวะเพศ ปากมดลูก ทางเดินปัสสาวะ หรือทวารหนัก ก็สามารถทำได้เช่นกัน
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มักพบในผู้หญิง มีอะไรบ้าง?
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มักในผู้หญิง มีดังนี้
โรคติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) : เป็นโรคที่พบได้มากในผู้หญิง และเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตเป็นอันดับต้น ๆ ของผู้หญิงไทย รวมถึงทำให้เกิดโรคมะเร็งทวารหนัก มะเร็งในช่องปากและคอ และหูดหงอนไก่ได้ด้วย
โรคติดเชื้อเอชไอวี (HIV) : เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่หลายคนรู้จักกันดี ในระยะแรก ๆ จะไม่แสดงอาการ แต่เมื่อภูมิคุ้มกันต่ำลง ร่างกายอ่อนแอ ก็จะมีโอกาสติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งผู้ที่ติดเชื้อ HIV แล้วไม่ได้รักษาอย่างเหมาะสมจนภูมิคุ้มกันบกพร่อง เราจะเรียกผู้ป่วยลักษณะนี้ว่า “ผู้ป่วยเอดส์”
เริม : เกิดจากเชื้อไวรัส HSV (Herpes Simplex Virus) จะแสดงอาการโดยเริ่มจากแผลบวมแดง มีตุ่มพองใส ๆ ขึ้นบริเวณได้รับเชื้อ เช่น การเป็นเริมที่อวัยวะเพศหญิง ง่ามขา หรือปาก
ซิฟิลิส : เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum เป็นอีกหนึ่งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ทำให้เสียชีวิตได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง โดยอาการแสดงในระยะแรก ๆ จะเป็นตุ่มเล็ก ๆ ขึ้นที่บริเวณอวัยวะเพศ ริมฝีปาก ลิ้น และหัวนม หลังจากนั้นจะแตกเป็นแผลมีน้ำเหลืองไหลออกมา ถ้าหากมีอาการนี้ แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ทันที
หนองในแท้และหนองในเทียม : เป็นอีกหนึ่งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยเช่นกัน เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยในผู้หญิงจะมีอาการแสดง ได้แก่ ตกขาวผิดปกติ ตกขาวเป็นสีเหลือง ประจำเดือนมาผิดปกติ ท่อปัสสาวะและปากมดลูกอักเสบ และมีหนองไหลออกมาจากปากมดลูกด้วย
สาวๆ คนไหนที่ควรตรวจ STD ผู้หญิง?
โดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป มีประวัติการมีเพศสัมพันธ์ สามารถตรวจ STD ได้เช่นเดียวกับการตรวจสุขภาพ หรือการตรวจภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใครที่มีปัจจัยต่อไปนี้ ควรตรวจ STD บ่อยขึ้นค่ะ
มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
มีคู่นอนหลายคน
เคยมีประวัติติดเชื้อ STD (ตรวจ STD แล้ว พบเชื้อ)
กำลังวางแผนมีบุตรหรือแต่งงาน
เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ เช่น ผู้ที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ใครมีอาการผิดปกติของอวัยวะเพศหญิง เช่น ตกขาวผิดปกติ คันหรือแสบในอวัยวะเพศ มีผื่นหรือแผลที่อวัยวะเพศ ปัสสาวะแสบหรือขัด ปวดท้องน้อย ปวดเมื่อยตามร่างกาย มีไข้ ควรรีบมาพบคุณหมอเพื่อปรึกษา ตรวจ STD และรับการรักษาที่ถูกต้อง
การตรวจ STD สามารถช่วยให้ทราบถึงสถานะการติดเชื้อของเรา หากพบว่าติดเชื้อ STD จะได้รีบรับการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อลุกลามหรือแพร่กระจายไปยังผู้อื่นได้ นอกจากนี้ การตรวจ STD ยังช่วยให้สามารถวางแผนการมีลูกได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย (ดังนั้นใครที่มีแผนจะแต่งงานหรือมีลูก อย่าลืมเช็กสุขภาพกันด้วยค่ะ)
สาเหตุของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD)
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เกิดจากเชื้อโรคหลายชนิด เช่น ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา โปรโตซัว และพยาธิ เชื้อโรคเหล่านี้อาจเข้าสู่ร่างกายผ่านทางช่องคลอด ทางทวารหนัก หรือทางปาก ขึ้นอยู่กับชนิดของโรค
อาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยในผู้หญิง
อาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อโรคและความรุนแรงของโรค อาการที่พบบ่อยในผู้หญิง ได้แก่
คันหรือแสบในอวัยวะเพศ
มีผื่นหรือแผลที่อวัยวะเพศ
ปัสสาวะแสบหรือขัด
ปวดท้องน้อย
ปวดเมื่อยตามร่างกาย
มีไข้
วิธีป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
การป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน
หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ
ตรวจ STD : ตรวจเลือดประจำทุกปี เพื่อหาเชื้อในกลุ่มที่มีความเสี่ยง
ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น วัคซีน HPV ป้องกันโรคหูดหงอนไก่
แนะนำโปรแกรมตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำหรับผู้หญิง ที่ happybirth clinic
แพ็กเกจตรวจ STD เฉพาะผู้หญิง แบบ 2 Pathogens ราคา 3,500 บาท
แพ็กเกจตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 2 เชื้อ สำหรับผู้หญิง ได้แก่
หนองในเทียม Chlamydia trachomatis (CT)
หนองในแท้ Neisseria gonorrhoeae (NG)
แพ็กเกจตรวจ STD เฉพาะผู้หญิง แบบ 7 Pathogens ราคา 3,700 บาท
แพ็กเกจตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 7 เชื้อ สำหรับผู้หญิง ได้แก่
หนองในเทียม : Chlamydia trachomatis (CT)
หนองในแท้ : Neisseria gonorrhoeae (NG)
พยาธิช่องคลอด : Trichomonas vaginalis (TV)
หนองในเทียม : Mycoplasma homonis (MH)
หนองในเทียม : Mycoplasma genitalium (MG)
หนองในเทียม : Ureaplasma urealyticum (UU)
หนองในเทียม : Ureaplasma parvum (UP)
แพ็กเกจตรวจ STD เฉพาะผู้หญิง แบบ 11 Pathogens ราคา 3,900 บาท
แพ็กเกจตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 11 เชื้อ สำหรับผู้หญิง ได้แก่
หนองในเทียม : Chlamydia trachomatis (CT)
หนองในแท้ : Neisseria gonorrhoeae (NG)
พยาธิช่องคลอด : Trichomonas vaginalis (TV)
หนองในเทียม : Mycoplasma homonis (MH)
หนองในเทียม : Mycoplasma genitalium (MG)
หนองในเทียม : Ureaplasma urealyticum (UU)
หนองในเทียม : Ureaplasma parvum (UP)
เริม : Herpes simplex Virus 1 (HSV1)
เริม : Herpes simplex Virus 2 (HSV2)
ซิฟิลิส : Teponema pallidum (TP)
แบคทีเรียในช่องคลอด : Gadnerella vaginalis (GV)
แพ็กเกจตรวจ STD เฉพาะผู้หญิง แบบ 15 Pathogens ราคา 4,900 บาท ตรวจครบ 15 เชื้อ
แพ็กเกจตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 15 เชื้อ สำหรับผู้หญิง ได้แก่
หนองในเทียม : Chlamydia trachomatis (CT)
หนองในแท้ : Neisseria gonorrhoeae (NG)
พยาธิช่องคลอด : Trichomonas vaginalis (TV)
หนองในเทียม : Mycoplasma homonis (MH)
หนองในเทียม : Mycoplasma genitalium (MG)
หนองในเทียม : Ureaplasma urealyticum (UU)
หนองในเทียม : Ureaplasma parvum (UP)
เริม : Herpes simplex Virus 1 (HSV1)
เริม : Herpes simplex Virus 2 (HSV2)
ซิฟิลิส : Teponema pallidum (TP)
แบคทีเรียในช่องคลอด : Gadnerella vaginalis (GV)
เชื้อรา : Candida albicans (CA)
เชื้อรา : Candida glabrata (CG)
แผลริมอ่อน : Haemophilus dycreyi (HD)
แบคทีเรียในช่องคลอด : Group B Streptococcus (GBS)
แฮปปี้เบิร์ธคลินิก เป็นคลินิกเฉพาะทางด้านสูตินรีเวช ให้บริการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) สำหรับผู้หญิง หรือผู้ที่ผ่าตัดแปลงเพศมาแล้วเท่านั้น ทุกเคสจะได้รับการดูแลคุณหมอและเจ้าหน้าที่ผู้หญิงอย่างเป็นส่วนตัวค่ะ
ตอบคำถามพบบ่อยเกี่ยวกับการตรวจ STD ผู้หญิง
นอกจากแนะนำแพ็กเกจตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สำหรับผู้หญิงแล้ว เรายังได้รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตรวจ STD ผู้หญิงมาด้วยค่ะ สาว ๆ คนไหนที่มีข้อกังวลอยู่ สามารถดูคำถามและคำตอบได้เลย!
1. STD กับ STI ต่างกันอย่างไร?
มีความหมายใกล้เคียงกันค่ะ โดย STDs (Sexually Transmitted Diseases) จะเป็นชื่อเรียกรวม ๆ ของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในขณะที่ STIs (Sexually Transmitted infections) จะหมายถึงการติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็น เชื้อไวรัส แบคทีเรีย และปรสิต ที่สามารถส่งต่อจากคนสู่คนผ่านเลือด น้ำอสุจิ อวัยวะเพศ และของเหลวในร่างกายได้ค่ะ
2. ใครบ้างเสี่ยงที่จะติดต่อโรคทางเพศสัมพันธ์?
ผู้ที่มีกิจกรรมทางเพศบ่อย ๆ เปลี่ยนคู่นอนหลายคน โดยที่ไม่ใส่ถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์ จะมีความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป ถ้าหากสาว ๆ จัดอยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้ จะต้องหมั่นตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำทุกเดือน เพื่อที่จะได้ดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม
3. รายการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ผู้หญิง มีอะไรบ้าง?
รายการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ผู้หญิงจะเหมือนกับผู้ชายเลย คือ ตรวจหาเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้บ่อย ๆ เช่น
เชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum ที่ทำให้เกิดโรคซิฟิลิส
เชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae ที่ทำให้เกิดโรคหนองในแท้
เชื้อแบคทีเรีย Chlamydia trachomatis ที่ทำให้เกิดโรคหนองในเทียม
เชื้อไวรัส Herpes simplex virus ที่ทำให้เกิดโรคเริม
โดยแพ็กเกจตรวจ STD ผู้หญิง ของแฮปปี้เบิร์ธคลินิก ครอบคลุมการเชื้อไวรัสเหล่านี้ทั้งหมดค่ะ
4. ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ตรวจแบบไหนบ้าง?
โดยทั่วไป เราจะตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทางเลือด หรือปัสสาวะค่ะ ซึ่งสามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองได้เลย ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ
5. ตรวจ STD ผู้หญิง รอผลไหม?
ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก โดยทั่วไปจะใช้ระยะเวลารอผลไม่เกิน 5 - 7 วันทำการค่ะ
6. ควรทำอย่างไรเมื่อตรวจพบเชื้อ?
เมื่อตรวจพบว่าติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จะต้องงดการมีเพศสัมพันธ์ชั่วคราวเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อไปยังคนอื่น ๆ และแจ้งให้คู่นอนของตัวเองทราบ หลังจากนั้นให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาจนกว่าจะหายดี ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย หรือในบางรายอาจถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้เลยค่ะ
จองแพ็กเกจตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) สำหรับผู้หญิง โดยหมอผู้หญิง
ที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิก เราเป็นคลินิกสูตินรีเวชโดยเฉพาะ ให้การดูแลโดยคุณหมอผู้หญิงที่เข้าใจในเรื่องของผู้หญิง ช่วยให้การตรวจโรค STD และฉีดวัคซีน HPV สำหรับผู้หญิงเป็นเรื่องที่ง่าย สบายใจ เป็นส่วนตัว และสะดวกมากขึ้นค่ะ
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่สนใจมาปรึกษาคุณหมอ เพื่อมาตรวจ STD สามารถนัดหมายผ่านทุกช่องทางการติดต่อของเราได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์ 081-442-9355 (ตามเวลาทำการคลินิก) และเฟสบุ๊กเพจ happybirth กับหมอชะเอม คุณหมอของเรายินดีให้บริการคนไข้ทุกเคสด้วยความใส่ใจค่ะ