หากพูดถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่น่ากลัว สามารถทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนที่ทำให้เสียชีวิตได้ “โรคซิฟิลิส” จะต้องเป็นหนึ่งในโรคที่หลาย ๆ คนนึกถึงอย่างแน่นอน เพราะเป็นโรคที่เมื่อผ่านพ้นระยะที่ 1 และ 2 ไปแล้ว จะเข้าสู่ระยะแฝงที่ไม่มีอาการแสดงใด ๆ ทำให้คนที่เป็นโรคนี้ไม่รู้ตัวว่าเป็น กว่าจะรู้ตัวก็เข้าสู่ระยะสุดท้ายแล้ว
เพื่อให้สาว ๆ สามารถรับมือกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นี้ได้อย่างเหมาะสม แฮปปี้เบิร์ธคลินิกจะพาไปรู้จักกับโรคซิฟิลิสเอง สาว ๆ คนไหนที่สงสัยว่า โรคซิฟิลิส อาการผู้หญิงเป็นอย่างไร? เกิดจากสาเหตุใด? จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็น? หาคำตอบที่บทความนี้ได้เลยค่ะ
บทความนี้ตรวจสอบความถูกต้องโดย พญ. ฐิติพรรณ ชยวงศ์รุ่งเรือง (คุณหมอชะเอม)
โรคซิฟิลิส (Syphilis) คืออะไร?
โรคซิฟิลิส (Syphilis) คือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียทรีโพนีมา แพลดินัม (Treponema pallidum) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็น ทางปาก ทางช่องคลอด หรือทางทวารหนัก จึงทำให้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Diseases) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า “โรค STDs”
โรคซิฟิลิสนั้น เป็นโรคที่มีความอันตรายมาก ๆ ค่ะ เพราะเมื่อเป็นแล้ว ไม่ทำการรักษา แผลริมแข็งที่เกิดขึ้นในระยะที่ 1 และ 2 จะหายไป และเข้าสู่ระยะแฝง ไม่มีอาการแสดง ๆ ใด ทำให้คนที่เป็นโรคนี้ไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เข้าสู่ระยะสุดท้ายของโรคแล้ว ซึ่งจะมีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมามากมาย เช่น กระดูกอักเสบ ตาบอด หูหนวก สมองพิการ เส้นเลือดใหญ่ที่หัวใจโป่งพอง และทำให้เสียชีวิตได้ค่ะ
โรคซิฟิลิสเกิดจากสาเหตุใด?
โรคซิฟิลิส มีสาเหตุมากากการติดเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum ซึ่งสามารถเข้าสู่ร่างกายของเราได้ผ่านทางรอยขีดข่วน หรือบาดแผลเล็ก ๆ บนผิวหนังและเยื่อบุต่าง ๆ โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ดังนี้ค่ะ
1. เป็นมาตั้งแต่กำเนิด (Congenital Syphilis)
เชื้อซิฟิลิสสามารถติดต่อผ่านทางแม่สู่ลูกในระหว่างการตั้งครรภ์ หรือระหว่างคลอดได้ค่ะ เราจะเรียกการติดเชื้อนี้ว่า “โรคติดเชื้อซิฟิลิสโดยกำเนิด” จัดเป็นการติดเชื้อรุนแรงและอันตรายต่อทารกอย่างมาก เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนด ทารกเสียชีวิตตั้งแต่ในครรภ์ หรือแรกเกิด หรือทำให้พิการได้ค่ะ
เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ว่าที่คุณแม่และคุณพ่อทุกคนที่กำลังวางแผนจะมีลูก จึงจำเป็นที่จะต้องตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์เพื่อคัดกรองความเสี่ยงเหล่านี้ให้หมด ถ้าตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ คุณหมอก็จะรักษาด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ได้ค่ะ
2. เกิดจากการติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์
การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย ไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอด หรือทางทวารหนัก รวมไปถึงการทำออรัลเซ็กส์ (Oral sex) และการจูบกับผู้ที่ติดเชื้อโดยที่มีแผลอยู่ในช่องปาก ล้วนสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum ได้ทั้งหมดค่ะ
3. เกิดจากการติดต่อผ่านช่องทางอื่น ๆ
การสัมผัสแผลผู้ป่วยโดยตรง หรือรับเลือดจากผู้ติดเชื้อ ก็สามารถทำให้เป็นโรคซิฟิลิสได้เช่นกันค่ะ
อาการโรคซิฟิลิสเป็นแบบไหน มีกี่ระยะ?
อาการของโรคซิฟิลิสจะมีทั้งหมด 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ระยะที่ 2 ระยะแฝง และระยะที่ 3 ซึ่งแต่ละระยะจะมีอาการแตกต่างกัน โดยอาจแสดงอาการเรียงไปตามระยะ หรือมีการสลับ หรือมีระยะที่ทับซ้อนกันก็ได้ค่ะ
อาการซิฟิลิสระยะที่ 1 (Primary Syphilis)
เรียกว่า “ระยะเป็นแผล” จะแสดงอาการหลังจากที่ได้รับเชื้อไปแล้ว 3 สัปดาห์
จะเป็นแผลริมแข็ง (Chancre) มีลักษณะเป็นแผลเล็ก ๆ สีแดง และขอบนูนแข็ง ๆ ไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บปวด
อาจเกิดแค่แผลเดียว หรือหลายแผลก็ได้
สามารถพบได้ที่บริเวณช่องคลอด ทวารหนัก องคชาต และในปาก
อาการซิฟิลิสระยะที่ 2 (Secondary Syphilis)
เรียกว่า “ระยะออกดอก” จะแสดงอาการหลังจากที่มีแผลริมแข็งไปแล้ว 1 เดือน หรือเร็วกว่านั้น
จะเกิดเป็นผื่นขึ้นตามฝ่ามือและฝ่าเท้า เป็นผื่นจาง ๆ แต่ไม่ได้ทำให้เกิดอาการคัน
ในบางรายอาจมีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย เจ็บคอ หรือต่อมน้ำเหลืองโตร่วมด้วยได้
อาการซิฟิลิสระยะแฝง (Latent Stage)
ถ้าหากเป็นระยะที่ 1 และ 2 แล้วผู้ป่วยไม่เข้ารับการรักษา อาการต่าง ๆ จะหายไปราวกับว่าไม่เคยเป็นโรคอะไรมาก่อน เราเรียกระยะนี้ว่า “ระยะแฝง” ค่ะ
เชื้อซิฟิลิสจะแฝงอยู่ในร่างกายของเราและดำเนินโรคต่อไปในร่างกายโดยที่ไม่แสดงอาการใด ๆ
จัดเป็นระยะที่ทำให้โรคซิฟิลิสกลายเป็นโรคที่น่ากลัว เพราะกว่าจะรู้ตัว เชื้อก็ลุกลามเป็นวงกว้างและเข้าสู่ระยะสุดท้ายแล้วค่ะ
อาการซิฟิลิสระยะที่ 3 (Tertiary Stage)
เรียกว่า “ระยะสุดท้าย” อาจแสดงอาการภายในไม่กี่ปี ไปจนถึง 10-20 ปีเลยก็ได้ค่ะ
การติดเชื้อในระยะสุดท้าย จะทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อสมอง ระบบประสาท ตา หัวใจ เส้นเลือด ตับ กระดูกและข้อต่อได้
อาการของระยะสุดท้าย ผู้ป่วยจะไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ตามปกติ ความสามารถในการมองเห็นลดลง มีภาวะสมองเสื่อม ตาบอด หูหนวก อัมพาต ชัก และเสียชีวิตได้ค่ะ
จะรู้ได้ไงว่าเป็นซิฟิลิส?
ถ้าหากสาว ๆ มีอาการแสดงของโรคซิฟิลิส หรือเป็นคนที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สามารถนัดหมายเข้ามาตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิกได้เลยค่ะ โดยเราจะสามารถตรวจวินิจฉัยโรคซิฟิลิสระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ได้ผ่านการตรวจเลือดหาภูมิคุ้มกัน หรือเก็บตัวอย่างเซลล์บนผิวหนังไปส่องกล้องดูได้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม ถ้าเข้าข่ายซิฟิลิสระยะแฝงเป็นต้นไปแล้ว แพทย์อาจให้ตรวจน้ำไขสันหลังเพื่อยืนยันโรคอีกครั้งหนึ่งค่ะ
โรคซิฟิลิสมีวิธีรักษาอย่างไร?
โรคซิฟิลิสสามารถรักษาให้หายขาดได้ ถ้าได้รับการตรวจและรักษาอย่างถูกต้องตั้งแต่เนิ่น ๆ ดังนั้นสาว ๆ ไม่ต้องกังวลไปก่อนเลยค่ะ ถ้าหากมีอาการที่เข้าข่าย หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง ก็สามารถนัดหมายเข้ามาตรวจกับคุณหมอที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิกได้เลย
สำหรับแนวทางการรักษาของโรคซิฟิลิส จะรักษาด้วยการฉีดยาฆ่าเชื้อเพนิซิลลิน (Peniclilin) ขนาดสูง โดยจำนวนเข็มจะแตกต่างกันไปตามระยะเวลาของการติดเชื้อ หากติดเชื้อในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี อาจฉีดแค่ 1 เข็มก็หยุดการลุกลามของโรคได้ แต่ถ้านานกว่านั้น อาจต้องฉีดทั้งหมด 3 เข็ม โดยจะฉีดทุก ๆ สัปดาห์ค่ะ
หลังจากที่รักษาเสร็จแล้ว แพทย์จะนัดตรวจเลือดหลังการรักษา 3 เดือน 6 เดือน และตรวจเลือดซ้ำเป็นประจำทุกปี เพื่อตรวจติดตามอาการและยืนยันว่าหายขาดแน่นอนแล้วค่ะ ซึ่งผู้เข้ารับการรักษาจะต้องงดมีเพศสัมพันธ์จนกว่าค่าผลตรวจเลือดจะเป็นลบ และต้องสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งค่ะ
“แฮปปี้เบิร์ธคลินิก ให้บริการตรวจและรักษาโรคซิฟิลิสเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น
สบายใจ และเป็นส่วนตัวกว่า สำหรับผู้หญิงทุกคน”
โรคซิฟิลิสมีวิธีป้องกันอย่างไร?
ในปัจจุบัน โรคซิฟิลิสยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค วิธีป้องกันที่ดีที่สุดจึงเป็นการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ ยกตัวอย่างเช่น
ไม่สัมผัสบาดแผล หรือใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย โดยสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์ หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ งดการจูบปาก หรือทำออรัลเซ็กส์กับคู่รักข้ามคืน
เข้ารับการตรวจคัดกรองการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำค่ะ
ในคุณแม่ตั้งครรภ์ หรือว่าที่คุณแม่คุณพ่อที่กำลังวางแผนจะมีบุตร จะต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์เพื่อตรวจหาเชื้อซิฟิลิสด้วยค่ะ
รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคซิฟิลิส
เพื่อให้สาว ๆ เข้าใจเกี่ยวกับโรคซิฟิลิสมากขึ้น เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคซิฟิลิสมาฝาก ใครที่มีข้อสงสัยอยู่ สามารถดูคำถามและคำตอบได้ที่นี่เลย
1. โรคซิฟิลิส แสดงอาการภายในกี่วัน?
อาการระยะที่ 1 หรือ แผลริมแข็ง จะแสดงอาการภายใน 3 สัปดาห์หลังจากที่ได้รับเชื้อแบคทีเรียเข้าไปแล้วค่ะ
2. เชื้อซิฟิลิส สามารถหายเองได้ไหม?
โรคซิฟิลิสไม่สามารถหายได้เอง ถึงแม้ว่าจะหายจากแผลริมแข็งและผื่นจนไม่มีอาการแสดงอะไรแล้ว เชื้อซิฟิลิสจะยังคงแฝงอยู่ในร่างกายและดำเนินโรคต่ออยู่ ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ ไม่ทำการรักษา โรคซิฟิลิสก็จะเข้าสู่ระยะสุดท้ายและทำให้เสียชีวิตได้ค่ะ
3. คนที่เคยเป็นซิฟิลิสสามารถบริจาคเลือดได้ไหม?
ถึงแม้ว่าจะรักษาจนหายดีแล้ว ก็ไม่สามารถบริจาคเลือดได้ค่ะ
4. เคยติดเชื้อซิฟิลิส สามารถมีลูกได้ไหม?
ถ้ารักษาจนหายดี เข้ารับการตรวจผลเลือดแล้วค่าเป็นลบ ก็สามารถมีลูกได้ค่ะ
5. โรคซิฟิลิสในผู้หญิงและผู้ชายมีความแตกต่างกันอย่างไร?
โรคซิฟิลิสในผู้หญิงและผู้ชายจะมีอาการเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันตรงตำแหน่งแผลริมแข็งที่เกิดขึ้น โดยในเพศชาย อาจเกิดแผลริมแข็งที่บริเวณปลาย หรือลำอวัยวะเพศ ในขณะที่ผู้หญิง แผลริมแข็งอาจเกิดในช่องคลอด หรือบริเวณทวารหนักก็ได้ค่ะ
6. รักษาโรคซิฟิลิสหายแล้ว กลับมาเป็นอีกได้ไหม?
ถ้าหากได้รับเชื้ออีกครั้ง ก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีกค่ะ
7. โรคซิฟิลิสกับโรคเอดส์เหมือนกันไหม?
ไม่เหมือนกันค่ะ โรคซิฟิลิสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum และสามารถรักษาให้หายขาดได้ ในขณะที่โรคเอดส์ (AIDS) จะเป็นอาการป่วยระยะสุดท้ายของผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ที่ไม่ได้เข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม จนทำให้เข้าสู่ระยะท้าย ๆ
โดยโรคเอดส์ จะเป็นภาวะที่เชื้อไวรัสเอชไอวีเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาวจนทำให้ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อต่าง ๆ และทำให้เกิดโรคติดเชื้ออื่น ๆ ตามมา เช่น วัณโรค ปอดบวม หรือเชื้อราขึ้นสมอง จนทำให้เสียชีวิตได้ในที่สุดค่ะ
8. เป็นโรคซิฟิลิสทำให้เสียชีวิตได้ไหม?
ในกรณีที่ไม่ได้รับการรักษา และปล่อยให้โรคเข้าสู่ระยะสุดท้ายแล้ว โรคซิฟิลิสสามารถทำให้เสียชีวิตได้ค่ะ
สรุปเรื่องโรคซิฟิลิส (Syphilis)
จะเห็นได้ว่า โรคซิฟิลิสเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่ถึงแม้จะดูน่ากลัว แต่ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ หากสาว ๆ อยู่ในกลุ่มเสี่ยง มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือมีอาการเข้าข่ายโรคซิฟิลิสอย่างแผลริมแข็ง หรือผื่นตามร่างกาย อย่าลืมที่จะเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพื่อความมั่นใจค่ะ โดยที่แฮปปี้เบิร์ธคลินิก เรามีบริการตรวจและรักษาโรคซิฟิลิสสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ สามารถจองคิวออนไลน์ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 081-442-9355 (ตามเวลาทำการคลินิก) และเฟสบุ๊กเพจ happybirth กับหมอชะเอม ได้เลย เรามีเจ้าหน้าที่ผู้หญิง และคุณหมอผู้หญิงให้การดูแลในทุกขั้นตอน เพื่อช่วยให้การตรวจสุขภาพภายในของสาว ๆ เป็นเรื่องที่สบายใจและเป็นส่วนตัวที่สุดค่ะ